The objectives
of this study were to compare the effect of the time-lapse before photo-activated
polymerization on the shear bond strength and the tag length of the commercial
sealant, Concise Light Cure White Sealant in primary molars. To study the
shear bond strength, sixty samples of buccal or lingual surfaces of primary
molars were randomly divided into three groups of 20 samples each, corresponding
to the time-lapse of 5, 10 and 30 seconds before photo-activated polymerization
of the sealant buttons built on the enamel surfaces. After polymerization,
the shear bond strength of each sample was tested using a universal testing
machine. The study of the tag length was performed using 12 buccal surfaces
of primary molars. They were divided into 2 groups of 6 samples each. Two
different intervals of time-lapse before photo-activated polymerization
were studied on the same sample. The first group intervals were 5 and 10
seconds; the second group intervals were 10 and 30 seconds. After polymerization,
each sample was then embedded in epoxy resin. Two different intervals of
time-lapse before photo-activated polymerization were obtained from each
sample by long axis sectioning. The samples were polished until the cutting
surfaces were smooth then etched with a phosphoric acid solution. The samples
were thoroughly rinsed with water, allowed to dry and coated with gold particles.
They were then examined under a scanning electron microscope. The comparison
of differences of the shear bond strength and the tag length of this sealant
of 5-, 10- and 30-second groups were analyzed by using one-way ANOVA, Tukey's
test and Tamhane's test. Significance of the differences was selected at
p<0.05. The study of the shear bond strength showed that the longer the
time-lapse before photo-activated polymerization was, the higher the shear
bond strength was. The average shear bond strengths of 5-, 10- and 30-second
groups were 10.76 2.42, 11.96 1.76 and 14.66 3.23 MPa, respectively. The
average shear bond strength of 30-second group was the highest and significantly
higher than those of 5-second (p=0.000) and of 10-second groups (p=0.004).
The average shear bond strength of 5-second group was the lowest but did
not show statistically significant difference as compared with that of the
10-second group. The study of the tag length showed that the average tag
lengths of 5-, 10- and 30-second intervals were 7.93 1.40, 9.08 2.15 and
8.68 1.59 um, respectively. The average tag length of 10-second interval
was the longest and had statistically significant difference only when compared
with that of the 5-second interval (p=0.010). The average tag length of
5-second interval was the shortest but statistically insignificant compared
with that of the 30-second interval. This study indicated that time-lapse
before the photo-activated polymerization had more effect on the shear bond
strength than that on the tag length of Concise Light Cure White Sealant
in primary molars. Therefore, a 30-second interval before photo-activated
polymerization enhances the attachment of sealant with the enamel surface
in primary molars as compared to those of 5- and 10-second intervals.
การวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อ
เปรียบเทียบผลของระยะเวลาที่แตกต่างกันก่อนกระตุ้นการเกิดพอลิ-เมอร์ด้วยแสงต่อกำลังแรงยึดแบบเฉือน
และความยาวเรซินแทกของวัสดุผนึกหลุมร่องฟัน Concise Light Cure White Sealant
ในฟันกรามน้ำนม การศึกษากำลังแรงยึดแบบเฉือนทำการทดลองโดยใช้ชิ้นส่วนของฟันกรามน้ำนมด้านทางแก้ม
หรือด้านทางลิ้นจำนวน 60 ชิ้น แบ่งโดยการสุ่มเป็น 3 กลุ่ม ๆ ละ 20 ชิ้น ตามระยะเวลาก่อนกระตุ้นการเกิดพอลิเมอร์ด้วยแสง
5 10 และ 30 วินาที หล่อแบบวัสดุผนึกหลุมร่องฟันบนชิ้นตัวอย่างและกระตุ้นการเกิดพอลิเมอร์ด้วยแสง
แล้วนำไปทดสอบกำลังแรงยึดแบบเฉือนด้วยเครื่องทดสอบทั่วไป ส่วนการศึกษาความยาวเรซินแทกทำการทดลองบนชิ้นส่วนของฟันกรามน้ำนมด้านทางแก้มจำนวน
12 ชิ้น โดยเตรียมกลุ่มระยะเวลาก่อนกระตุ้นการเกิดพอลิเมอร์ด้วยแสง 5 กับ 10
วินาทีในชิ้นตัวอย่างเดียวกัน จำนวน 6 ชิ้น และกลุ่มระยะเวลาก่อนกระตุ้นการเกิดพอลิเมอร์ด้วยแสง
10 กับ 30 วินาที ในชิ้นตัวอย่างเดียวกัน จำนวน 6 ชิ้น หลังจากทาวัสดุผนึกหลุมร่องฟันบนชิ้นตัวอย่าง
กระตุ้นการเกิด พอลิเมอร์ด้วยแสง นำไปฝังในเรซินอีพอกซี แล้วตัดชิ้นตัวอย่างตามแนวแกนฟันเพื่อแบ่ง
2 กลุ่มทดลองออกจากกัน ขัดผิวบริเวณรอยตัดให้เรียบก่อนละลายส่วนของผิวเคลือบฟันออกด้วยสารละลายกรดฟอสฟอริก
ล้างน้ำ รอให้ชิ้นตัวอย่างแห้ง จึงนำไปเคลือบด้วยอนุภาคทอง เพื่อศึกษาความยาวเรซินแทกจากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด
นำข้อมูลที่ได้ไปทดสอบความแตกต่างของกำลังแรงยึดแบบเฉือน และความยาวเรซินแทกของวัสดุผนึกหลุมร่องฟัน
เมื่อระยะเวลาก่อนกระตุ้นการเกิดพอลิเมอร์ด้วยแสง 5 10 และ 30 วินาที ด้วยการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว
การทดสอบของทูกีย์ และการทดสอบของแทมเฮน โดยกำหนดระดับความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่
p<0.05 ผลการวิจัยพบว่า กำลังแรงยึดแบบเฉือนมีค่าเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่นานขึ้นก่อนกระตุ้นการเกิดพอลิเมอร์ด้วยแสง
โดยค่าเฉลี่ยกำลังแรงยึดแบบเฉือนในกลุ่มระยะเวลาก่อนกระตุ้นการเกิดพอลิเมอร์ด้วยแสง
5 10 และ 30 วินาทีเท่ากับ 10.76 2.42 11.96 1.76 และ 14.66 3.23 เมกะปาสคาล
ตามลำดับ ค่าเฉลี่ยกำลังแรงยึดแบบเฉือนในกลุ่มระยะเวลาก่อนกระตุ้นการเกิดพอลิเมอร์ด้วยแสง
30 วินาทีมีค่ามากที่สุด และมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มระยะเวลาก่อนกระตุ้นการเกิดพอลิเมอร์ด้วยแสง
5 วินาที (p=0.000) และ 10 วินาที (p=0.004) ส่วนค่าเฉลี่ยกำลังแรงยึดแบบเฉือนในกลุ่มระยะเวลาก่อนกระตุ้นการเกิดพอลิเมอร์ด้วยแสง
5 วินาทีมีค่าน้อยที่สุด แต่มีค่าไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจากกลุ่ม
10 วินาที สำหรับค่าเฉลี่ยความยาวเรซินแทกในกลุ่มระยะเวลาก่อนกระตุ้นการเกิดพอลิเมอร์ด้วยแสง
5 10 และ 30 วินาที มีค่าเท่ากับ 7.93 1.40 9.08 2.15 และ 8.68 1.59 ไมโครเมตร
ตามลำดับ โดยค่าเฉลี่ยความยาวเรซินแทกในกลุ่มระยะเวลาก่อนกระตุ้นการเกิด พอลิเมอร์ด้วยแสง
10 วินาทีมีค่ามากที่สุด และมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.010)
เฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่ม 5 วินาที ซึ่งมีค่าเฉลี่ยความยาวเรซินแทกน้อยที่สุด
แต่ค่าเฉลี่ยความยาวเรซินแทกในกลุ่มระยะเวลาก่อนกระตุ้นการเกิดพอลิ-เมอร์ด้วยแสง
5 วินาทีนี้มีค่าไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจากกลุ่ม 30 วินาที การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า
ระยะเวลาก่อนกระตุ้นการเกิดพอลิเมอร์ด้วยแสงมีผลต่อกำลังแรงยึดแบบเฉือนมากกว่าที่จะมีผลต่อความยาวเรซินแทกของวัสดุผนึกหลุมร่องฟัน
Concise Light Cure White Sealant ที่เกิดขึ้นในฟันกรามน้ำนม ดังนั้นการรอนาน
30 วินาทีภายหลังการทาวัสดุผนึกหลุมร่องฟัน เพื่อให้เรซินมีเวลาไหลลงไปในรูพรุนที่เกิดบนผิวเคลือบฟันอาจช่วยทำให้การยึดติดของวัสดุผนึกหลุมร่องฟันกับผิวเคลือบฟันกรามน้ำนมดีขึ้นเมื่อเทียบกับเวลาที่รอเพียง
5 หรือ 10 วินาทีก่อนกระตุ้นการเกิดพอลิเมอร์ด้วยแสง