English version /Home

            ภาควิชากายวิภาคศาสตร์           
คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

                 ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีกำเนิดเป็นเพียงแขนงวิชาหนึ่งของแผนกทันตแพทยศาสตร์ ซึ่งเป็นแผนกอิสระแผนกหนึ่งในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมี พ.อ. หลวงวาจวิทยาวัฑฒน์ เป็นหัวหน้าแผนก ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2483 เนื่องจากเป็นแผนกอิสระใหม่ จึงไม่มีสถานที่ทำการสอนวิชาต่าง ๆ ที่แน่นอนเหมือนของแผนกหรือคณะต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย แขนงวิชาต่าง ๆ ของแผนกทันตแพทยศาสตร์ในขณะนั้นจึงต้องอาศัยเรียนอยู่กับคณะต่างๆสำหรับการสอนวิชากายวิภาคศาสตร์ได้อาศัยเรียนอยู่   กับแผนกกายวิภาคศาสตร์ของคณะแพทย-ศาสตร์และศิริราชพยาบาล โดยมีศาสตราจารย์นายแพทย์สุด แสงวิเชียรเป็นผู้บรรยายและควบคุมการสอน และมีอาจารย์ลิ้ม จุลละพันธ์ เป็นอาจารย์ผู้ช่วยควบคุมภาคปฏิบัติการ และเนื่องจากแผนกทันต-แพทยศาสตร์เป็นแผนกที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ ดังนั้นหลักสูตรการสอนวิชากายวิภาคศาสตร์ จึงยังไม่ได้มีการกำหนดลงไปแน่นอนว่าควรจะสอนวิชากายวิภาคศาสตร์สาขาต่าง ๆ มากน้อยเท่าใดจึงจะเหมาะสม การสอนวิชานี้ จึงดำเนินไปคล้ายคลึงกับการสอนนักศึกษาแพทย์ในขณะนั้น
                  ต่อมาในปี พ.ศ. 2486 ได้มีการแยกคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชกรรมศาสตร์ และสัตวแพทยศาสตร์ ออกจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มารวมกันตั้งขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยแพทย-ศาสตร์ (ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยมหิดล) แผนกทันตแพทยศาสตร์จึงมีฐานะเป็นคณะทันตแพทยศาสตร์ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ พ.ศ. 2486 และมี พ.อ. หลวงวาจวิทยาวัฑฒน์ เป็นคณบดีขณะนั้นประเทศไทยเราอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นได้เข้ามาอาศัยอยู่ ณ ตึกทันตแพทยศาสตร์ (ตึกวาจวิทยาวัฑฒน์) จุฬาลงกรณ์ซอย 11 (จุฬาลงกรณ์ ซอย 64) ดังนั้นคณะทันตแพทยศาสตร์จึงจำเป็นต้องย้ายไปอาศัยอยู่บนตึกรังสีวิทยา โรงพยาบาลศิริราช ธนบุรีสำหรับการสอนวิชากายวิภาคศาสตร์ ก็ยังคงอาศัยแผนกกายวิภาคศาสตร์ของคณะแพทยศาสตร์และ ศิริราชพยาบาล เป็นที่เรียนอยู่ตามเดิม
             ใน วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2488 คณะทันตแพทยศาสตร์ได้ย้ายจากตึกรังสีวิทยา โรงพยาบาลศิริราช มาอยู่ที่ชั้น 3 อาคาร 5 ถนนราชดำเนิน แต่การสอนวิชากายวิภาคศาสตร์ขณะนั้นก็ยังคงอาศัยแผนกกายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาลเป็นผู้สอนให้อย่างเดิม

                ต่อมานโยบายและโครงการศึกษาของคณะทันตแพทยศาสตร์ได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปโดย พ.อ. หลวงวาจวิทยาวัฑฒน์ คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ในขณะนั้น ต้องการจัดให้มีแผนกกายวิภาคศาสตร์ขึ้นเองภายในคณะทันตแพทยศาสตร์ ดังนั้นในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2489 คณะทันตแพทย-ศาสตร์ได้แยกการสอนวิชาต่าง ๆ ทุกสาขาวิชาออกมาทำการสอนเองและในปีนี้เองจึงนับได้ว่าเป็นปีแรกที่คณะทันตแพทยศาสตร์ได้เริ่มทำการสอนวิชากายวิภาคศาสตร์อย่างจริงจังด้วยตนเองขึ้นภายในคณะฯ การสอนวิชานี้อยู่ในความควบคุมของทันตแพทย์ ม.ร.ว. อ๊อด กฤดากร (ศาสตราจารย์ ทันตแพทย์ ดร. ม.ร.ว. อ๊อด กฤดากร) ซึ่งเป็นทั้งผู้บรรยายและผู้ควบคุมการปฏิบัติการภายในห้องปฏิบัติการด้วย แต่หลักสูตรก็ยังคงคล้ายกับเมื่อครั้งอาศัยเรียนอยู่กับแผนกกายวิภาคศาสตร์ คณะแพทย-ศาสตร์และศิริราชพยาบาล และในปีนี้เองสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ยุติลง กองทัพญี่ปุ่นได้ส่งคืนตึกทันต-แพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ซอย 11 ให้แก่คณะฯ ทางคณะฯ จึงได้พิจารณาที่จะย้ายบรรดาแผนกการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ขั้นมูลฐาน (Basic Sciences) ทั้งหมดมาทำการสอนที่ตึกทันตแพทย-ศาสตร์ คงไว้แต่วิชาทางด้านคลินิกเท่านั้นที่ยังคงดำเนินการสอนอยู่ ณ ชั้น 3 อาคาร 5 ถนนราชดำเนินต่อไป

       อีกหนึ่งปีต่อมา คือปี พ.ศ. 2490 อาศัยพระราชกฤษฎีกาการจัดระเบียบราชการกรมมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ในกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดแบ่งคณะทันตแพทยศาสตร์ออกเป็น 12 แผนก และในจำนวนนี้มีแผนกกายวิภาคศาสตร์อยู่ด้วย อีกทั้งในปีนี้เองทันตแพทย์ ม.ร.ว. อ๊อด กฤดากร ได้ย้ายไปทำการสอนวิชาสรีรวิทยาและชีวเคมี ส่วนการสอนวิชากายวิภาคศาสตร์อยู่ในความควบคุมของรักษาการหัวหน้าแผนกกายวิภาคศาสตร์ นายแพทย์เล็ก ณ นคร โดยมีทันตแพทย์เสงี่ยม ลิมพะสุต (ศาสตราจารย์ ทันตแพทย์เสงี่ยม ลิมพะสุต) เป็นอาจารย์ผู้ช่วย การสอนวิชากายวิภาคศาสตร์ขณะนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม คือตามแนวเดิมที่อาศัยการสอนจากแผนกกายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์และ ศิริราชพยาบาล แต่มาทำการสอนอยู่ ณ ตึกทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ซอย 11 เท่านั้น ส่วนบรรดาอุปกรณ์ที่ใช้ในการสอนวิชานี้นับว่าเลวลงกว่าเมื่อครั้งอยู่กับแผนกกายวิภาคศาสตร์ของคณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล เพราะเนื่องจากการแยกออกมาทำการสอนเองอย่างกระทันหัน ประการหนึ่ง และงบประมาณของคณะทันตแพทยศาสตร์ได้รับน้อยมากอีกประการหนึ่ง จึงไม่สามารถที่จะจัดหาบรรดาอุปกรณ์ในการสอนให้ได้ครบถ้วน ต้องอาศัยหยิบยืมจากสถาบันอื่น ๆ อาทิเช่น โต๊ะชำแหละศพมีเพียง 4 โต๊ะ และเครื่องมือชำแหละศพมีเพียง 6 ชุด ซึ่งยืมจากโรงเรียนแพทย์เสนารักษ์ จังหวัดลพบุรี กล้องจุลทรรศน์มีจำนวน 5 กล้องซึ่งเป็นสมบัติเดิมของคณะทันตแพทยศาสตร์ ส่วนอาจารย์ใหญ่ที่ใช้ในการศึกษาและ glass slides ที่ใช้ในการสอน Histology และ embryology ได้รับความกรุณาจาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สุด แสงวิเชียร ซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกกายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์และ ศิริราชพยาบาล ในปี พ.ศ. 2492 แผนกกายวิภาคศาสตร์ได้รับงบประมาณมาให้จัดซื้อเครื่องมือที่ใช้ในการทำ slides เพื่อการสอนวิชา Histology จึงทำให้แผนกเริ่มมีอุปกรณ์ในการสอนเพิ่มขึ้นจากเดิม

             ในปี พ.ศ. 2496 ศาสตราจารย์ ทันตแพทย์เสงี่ยม ลิมพะสุต ทำหน้าที่หัวหน้าแผนกกายวิภาค-ศาสตร์เนื่องจากท่านได้มีโอกาสไปศึกษาและดูงานการสอนจากโรงเรียนทันตแพทย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้เปลี่ยนแนวการสอนของภาควิชาไปจากเดิม ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับวิชาการทางทันตแพทยศาสตร์ ขณะนั้นแผนกกายวิภาคศาสตร์ทำการสอนวิชา Gross Anatomy, Histology และ Embryology
             จนปี พ.ศ. 2509 แผนกวิชาฯ ได้จัดให้มีการสอนวิชา Neuroanatomy เพิ่มขึ้นอีกสาขาหนึ่งปี พ.ศ. 2509 แผนกวิชากายวิภาคศาสตร์ได้ย้ายไปอยู่ตึกที่สร้างใหม่ เป็นตึกเล็ก ๆ 2 ชั้น ใช้ชื่อว่า "ตึกกายวิภาคศาสตร์"ซึ่งต่อมาใน ปี พ.ศ. 2511 ได้รับงบประมาณต่อเติมตึกทำให้มีสถานที่ใช้เรียน ทั้งห้องปฏิบัติการ Gross Anatomy ชั้นล่าง ส่วนชั้นบนเป็นห้องปฏิบัติการของวิชา Histology และ Neuroanatomy
             ใน ปี พ.ศ. 2515 คณะทันตแพทยศาสตร์ ได้โอนจากมหาวิทยาลัยมหิดลกลับมาอยู่กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเปลี่ยนชื่อจากแผนกกายวิภาคศาสตร์เป็นภาควิชากายวิภาคศาสตร์ แนวการสอนก็ได้เริ่มเปลี่ยนไปอีกเล็กน้อย คือในสาขาวิชา Neuroanaomy นอกจากทำการสอนโดยอาจารย์ของภาควิชาฯ เองแล้ว ยังได้เชิญอาจารย์จากภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาช่วยสอนในหัวข้อของความสัมพันธ์ทางคลินิกด้วย ทั้งนี้เพราะจุดมุ่งหมายของการสอนวิชากายวิภาคศาสตร์นั้นต้องการให้ทันตแพทย์ไม่เพียงมีความรู้ด้านพื้นฐานเท่านั้น แต่ต้องการให้นำไปประยุกต์ในด้านการรักษาพยาบาลผู้ป่วยได้อีกด้วย หรืออย่างน้อยสามารถทราบหรือสงสัยโรค ซึ่งเราทันตแพทย์ไม่มีสิทธิ์หรือไม่สามารถบำบัดได้ จะได้ทำการแนะนำหรือส่งไปให้แพทย์เฉพาะทางเป็นผู้รักษาให้ ทั้งนี้เพราะการประกอบโรคศิลปสาขาทันตกรรมนั้น จำเป็นต้องเกี่ยวเนื่องกับร่างกายของผู้ป่วยทั้งตัว ไม่ใช่ทำการรักษาอยู่เฉพาะแต่ในช่องปากเท่านั้น
            ในปี พ.ศ. 2517 ตึกกายวิภาคศาสตร์ก็ได้รับการต่อเติมอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นห้องพักสำหรับอาจารย์ที่เพิ่มจำนวนขึ้น
            ในปี พ.ศ. 2519 ภาควิชาทันตพยาธิวิทยาได้โอนวิชา Dental Histology มาให้ภาควิชากายวิภาคศาสตร์สอน เนื่องจากอาจารย์ของภาควิชาทันตพยาธิวิทยาผู้สอนวิชานี้ได้โอนไปอยู่คณะทันต-แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลซึ่งตามประวัติ ในปี พ.ศ. 2492 - พ.ศ. 2496 ศาสตราจารย์ ทันตแพทย์เสงี่ยม ลิมพะสุต ได้ช่วยสอนวิชา Dent Histologyและ Oral Pathology ให้กับภาควิชาทันต-พยาธิวิทยาด้วย
            ในปี พ.ศ. 2526 ภาควิชาฯ ได้เปลี่ยนชื่อวิชา Dental Histology เป็น Oral Histology เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาวิชาที่สอนโดยรวมเอา Histology ของโครงสร้างที่เกี่ยวข้องมารวมสอนในวิชา Oral Histology ด้วย
            ในปี พ.ศ. 2531 ทางภาควิชาฯ ได้ย้ายการสอนในห้องปฏิบัติการมาสอนที่ตึกพรีคลินิกชั้น 6 ส่วนห้องพักอาจารย์ของภาควิชาฯ ได้รับการจัดสรรให้อยู่ชั้น 5 โดยอยู่คนละครึ่งกับห้องพักของอาจารย์ภาควิชาเภสัชวิทยา และอาจารย์ได้ย้ายมาอยู่ที่ชั้น 5 เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2532
            ในปี พ.ศ. 2538 ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ร่วมกับภาควิชาพรีคลินิกอื่น ๆ เปิดหลักสูตรปริญญาโทและเอก สาขาวิชาชีววิทยาช่องปาก
            ปัจจุบันนี้ (พ.ศ. 2545) ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ประกอบด้วยคณาจารย์ จำนวน 12 ท่าน และนักวิทยาศาสตร์ 3 ท่าน รับผิดชอบการสอนปริญญาบัณฑิต วิชา Gross Anatomy, Histology, Embryology, Neuroanatomy และ Oral Histology นอกจากนี้ภาควิชาฯ ยังได้เปิดสอนวิชา Applied Anatomy of Head & Neck,Seminar in Oral Biology, Electron Microscopy in Dentistry และ Tissue Culture in Dentistry ให้กับหลักสูตรหลังปริญญาของคณะทันตแพทยศาสตร์ ขณะนี้จึงนับได้ว่า สอนครบทุกสาขาวิชาที่ควรจะมีในภาควิชากายวิภาคศาสตร์ เทียบเคียงได้กับการสอนวิชากายวิภาค-ศาสตร์ในต่างประเทศที่เจริญแล้ว และแนวการสอนที่เน้นความรู้พื้นฐานเพื่อจะได้นำไปประยุกต์ใช้ในการรักษาผู้ป่วยทางทันตกรรม และการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ตลอดจนการพัฒนาการรักษา ผู้ป่วยสืบไป
            เอกสารอ้างอิง
                    1. เสงี่ยม ลิมพะสุต. ประวัติแผนกวิชากายวิภาคศาสตร์. 25 ปี ทันตแพทย์ จุฬาฯ.
                    2. นารี บุญภิรักษ์. ภาควิชากายวิภาคศาสตร์. 50 ปี ทันตแพทย์ จุฬาฯ วิชาการทันตแพทยศาสตร์. พ.ศ. 2533 หน้า 1-4.

           รายชื่อคณาจารย์ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2550)
                   1. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สุด แสงวิเชียร
                   2. อาจารย์ ลิ้ม จุลละพันธ์
                   3. นายแพทย์ เล็ก ณ นคร
                   4. ศาสตราจารย์ ทันตแพทย์ เสงี่ยม ลิมพะสุต*
                   5. ศาสตราจารย์ ทันตแพทย์ สม อิศรภักดี
                   6. รองศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง จงกลพรรณ สุทธิพิศาล*
                   7. อาจารย์ ทันตแพทย์ กรีฑา ขวัญบุญจัน**
                   8. รองศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง นารี บุญภิรักษ์*
                   9. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทันตแพทย์ มาโนช ชัยวัฒน์*
                  10. รองศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง ดร. นวลน้อย เวชบรรจง*
                  11. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง ลมุลยง โพวาทอง (โอนไปสังกัดภาควิชาชีวเคมี)
                  12. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง จุติศรี แสงวิเชียร*
                  13. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง ดร. วิสาขะ ลิ่มวงศ์*
                  14. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง ดอลลี่ เมธาธราธิป
                  15. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง สิริมา สุตรา
                  16. รองศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง ดร. วันดี อภิณหสมิต
                  17. รองศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง ทัศนีย์ ยงชัยตระกูล
                  18. อาจารย์ ทันตแพทย์หญิง ดร. ช่อฉัตร จินตนาวงศ์**
                  19. รองศาสตราจารย์ ทันตแพทย์ ดร. ประสิทธิ์ ภวสันต์
                  20. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง ดร. สุคนธา เจริญวิทย์
                  21. อาจารย์ ทันตแพทย์หญิง สุพร เอี่ยมอภิชาติ***
                  22. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทันตแพทย์ ดร. พสุธา ธัญญะกิจไพศาล
                 23. อาจารย์ ทันตแพทย์ ดร. ดำรงค์ ดำรงค์ศรี
                 24. อาจารย์ ทันตแพทย์หญิง ดร. นีรชา สารชวนะกิจ
                 25. อาจารย์ ทันตแพทย์หญิง ดร. ปิยมาศ สำเร็จกาญจนกิจ
                 26. อาจารย์ ทันตแพทย์หญิง ผกาภรณ์ พันธุ์วดี***
                 27. อาจารย์ ทันตแพทย์หญิง วิริษฏา ตระกูลรังสิ***
                 28. อาจารย์ ทันตแพทย์ กฤษณ์ชัย เบศรภิญโญวงศ์
                 29. อาจารย์ ทันตแพทย์หญิง กนกวรรณ จรูญภัทรพงษ์***
                 30. อาจารย์ ทันตแพทย์หญิง พิไลพร วิวัฒน์บุตรสิริ
                 31. อาจารย์ ทันตแพทย์ ธนภูมิ โอสถานนท์
                       * เกษียณอายุราชการ **ถึงแก่กรรม ***ลาออก

                 นักวิทยาศาสตร์ และพนักงานวิทยาศาสตร์
               1. นางเกษม อุไรศรี
               2. นางสาวสมทรง มังคลางกูร
               3. นายวิวัฒน์ ศิริกุล
               4. นายชาคริต แววสง่า
               5. นางวิยดา อุดมสวัสดิ์
               6. นางบังเอิญ
               7. นายตระการ สุขทองหลาง
               8. นายสังคม พิมลี
               9. นายสุชาติ กาลวสุกุล ***
               8. นางสาววารุณี ไตรสัจจกุล ***
               9.
นางสาววิลาวัณย์ รัตนถิรกุล ***

                 *** ปัจจุบันยังทำงานอยู่

 

                          

็Home